Privacy Policy & Cookie Policy

Privacy Policy

Foods Classic 007-2565
ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
บริษัท ฟู้ดส์ คลาสสิค จำกัด และสาขา และบริษัทในเครือ
1. บททั่วไป

การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในอนาคต ซึ่งกำหนดให้ผู้ควบคุมข้อมูล ต้องจัดให้มีมาตร การรักษาความปลอดภัย ของข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด บริษัท และสาขา และบริษัทในเครือ จึงจัดทำ (Privacy Notice) ฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายถึงวิธีการที่บริษัท และสาขา และบริษัทในเครือจะปฏิบัติต่อท่านใน ฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” เช่น วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือ การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วย วิธีการอัตโนมัติ หรือ ไม่ก็ตาม อาทิ การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยน หรือการดัดแปลง การเรียกคืน การส่ง โอน การเผยแพร่ หรือการทำให้สามารถเข้าถึง หรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใดๆ การจัดเรียง การนำมารวมกัน การจำกัด หรือการห้ามเข้าถึง การลบ หรือการทำลาย ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ประมวลผล” และเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำ ให้ท่านฯอ่าน และทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่างๆ ภายใต้ประกาศฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

คำนิยาม

“บริษัท” หมายถึง บริษัท ฟู้ดส์ คลาสสิค จำกัด และ สาขา

“บริษัทในเครือ” หมายถึง บริษัทจำกัด ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท โดยมีลักษณะเป็นไปตามที่มีข้อตกลงร่วมกัน หรือที่ท่านยินยอมให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ บริษัท ฟู้ดดิสท์ จำกัด เป็นต้น

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่สามารถหรืออาจจะระบุตัวตนของท่าน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องทั้งในปัจจุบัน และอนาคต

“คู่ค้า” หมายถึง บุคคลที่จะขายหรือขายสินค้าและ/หรือบริการให้แก่บริษัทและบริษัทในเครือ เช่น คู่สัญญา ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา เป็นต้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่ค้า เช่น ผู้ขาย ผู้ให้บริหาร กรรมการ พนักงานลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่าง บริษัท และบริษัทในเครือ กับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้ส่งสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น รวมทั้งบุคคลที่นิติบุคคลนั้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัทและบริษัทในเครือด้วย

“ลูกค้า” หมายถึง บุคคลที่จะซื้อ หรือซื้อสินค้า และ/หรือรับบริการ หรือบุคคลอื่นที่ติดต่อสอบถามข้อมูลสินค้า และ/หรือบริการของ บริษัท และบริษัทในเครือ บุคคลที่รับทราบข้อมูลสินค้า และ/หรือบริการผ่านสื่อต่างๆ และบุคคลที่ได้รับการโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้า และ/หรือบริการ และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลที่เป็นลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใดที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่าง บริษัทและบริษัทในเครือ กับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้าผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น รวมทั้งบุคคลที่นิติบุคคลนั้น ๆ ได้ให้ข้อมูลไว้ด้วย

2. กลุ่มบุคคล หรือบุคคลที่บริษัทและบริษัทในเครือ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย

2.1 ผู้สมัครงาน หมายถึง บุคคลที่แจ้งความประสงค์เพื่อรับการคัดเลือกเป็นบุคลากรของ บริษัทและบริษัทในเครือ ซึ่งบริษัทฯ อาจเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเองโดยตรง หรือได้รับจากบุคคลภายนอกก็ได้

2.2 บุคลากร หมายถึง บุคคลซึ่งทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ให้กับบริษัทฯ และได้ค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนอื่นไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรจากบริษัทฯ เพื่อตอบแทนการทำงาน เช่น กรรมการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ พนักงาน บุคลากร ผู้ฝึกงาน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ไม่รวมถึงผู้รับจ้างหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ

2.3 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานและบุคลากร หมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานและบุคลากรของบริษัทฯ และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น บุคคลในครอบครัว (ได้แก่ บิดา มารดา คู่สมรส และบุตร เป็นต้น) บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง (Reference Person) ผู้รับผลประโยชน์ และผู้ค้ำประกันการทำงาน เป็นต้น

2.4 ลูกค้าของบริษัท ได้แก่

2.4.1 ลูกค้าของบริษัท ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาที่ใช้บริการของบริษัท และหมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาอื่นที่มีอำนาจในการกระทำการแทนลูกค้า

2.4.2 ลูกค้าองค์กรธุรกิจ กรรมการ ผู้ถือหุ้น พนักงาน หรือผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของลูกค้าองค์กรธุรกิจเดิมและปัจจุบันรวมถึงบุคคลธรรมดาอื่นที่มีอำนาจในการกระทำการแทนลูกค้าองค์กรธุรกิจ ทั้งนี้ บริษัทฯขอแนะนำให้ลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัทดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลผู้มีอำนาจกระทำการแทน หรือบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องใดๆ รับทราบ ถึงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท

2.5 บุคคลที่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท บุคคลดังกล่าวรวมถึง บุคคลธรรมดา หรือองค์กรธุรกิจที่ไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการกับบริษัท แต่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น ผู้ให้บริการแก่บริษัท ผู้ลงทุน บุคคลที่ได้ชำระเงินให้แก่หรือรับเงินจากลูกค้าของบริษัท บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท หรือเข้าใช้บริการที่สำนักงานของบริษัทบุคคลที่ให้ความสนใจหรือต้องการเข้าสมัครใช้บริการของบริษัท ผู้ค้ำประกันหรือผู้ให้หลักประกันผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง กรรมการหรือผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของนิติบุคคลที่ใช้บริการของบริษัท ลูกหนี้ของลูกค้าของบริษัทที่ปรึกษาด้านวิชาชีพ รวมถึง ผู้ลงทุน และผู้ถือหุ้นของบริษัท และตัวแทนโดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลดังกล่าว และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับบริษัท หรือคู่ค้าของบริษัท

3. วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

3.1 บริษัทฯจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

3.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ โดยตรง เช่น เมื่อท่านยื่นใบสมัครงาน และเอกสารประกอบการสมัครงานให้แก่บริษัทฯไม่ว่าโดยการสมัครด้วยตนเองที่บริษัทฯ หรือการสมัครงานผ่านเว็บไซต์ของบริษัท (https://www.foodsclassic.com) และให้หมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเข้าสัมภาษณ์งาน เข้าทำสัญญากับบริษัทฯ และส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏอยู่มาให้กับบริษัทฯ เป็นต้น

3.1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดูการใช้คุกกี้ในข้อ

3.1.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น เว็บไซต์สมัครงานของบุคคลที่สาม บุคคลอ้างอิงของท่าน บริษัทจัดหางาน หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา แหล่งข้อมูล Social Media หรือใบสมัครงานและ/หรือเอกสารของบุคคลซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับท่าน ในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลในครอบครัว บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้รับผลประโยชน์ หรือ ผู้ค้ำประกันการทำงานของบุคคลดังกล่าว เป็นต้น

3.2 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่างๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

3.3 ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอมโดยติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 12 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

3.4 การดำเนินกระบวนการอันเกี่ยวกับข้อพิพาทการเรียกคืนหรือโอนซึ่งหนี้ รวมถึงกระบวนการต่างๆ ตามกฎหมาย การพิสูจน์และยืนยันตัวตนของลูกค้า หรือผู้เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือผู้ให้บริการสนับสนุนลูกค้าในการประกอบธุรกิจ (Business Facilitator) หรือคู่ค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท

3.5 การบันทึกข้อมูลผู้เข้ามาติดต่อขอเข้าพื้นที่ทำการของบริษัท การถ่ายภาพหรือบันทึกภาพเคลื่อนไหวในเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันทรัพย์สินของบริษัท รวมถึงเพื่อใช้ในการตรวจสอบกรณีเกิดอุบัติเหตุและเหตุการณ์อาชญากรรม

3.6 บริษัทและบริษัทในเครือ อาจใช้ฐานทางกฎหมายต่างๆ ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนด ได้แก่ ฐานสัญญา ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม เช่น การตรวจสอบเพื่อทราบสถานะเกี่ยวกับบุคคลเพื่อป้องกันการฉ้อโกงและการทุจริต โดยไม่กระทบต่อประโยชน์หรือสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

4. ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปที่เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทและบริษัทในเครือโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทและบริษัทในเครือได้รับมาจากบุคคลภายนอก หากท่านได้มอบโดยท่านไม่ได้ปกปิดข้อมูล ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัทและบริษัทในเครือมีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการที่จะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่าน เท่านั้น

ในกรณีที่บริษัทและบริษัทในเครือจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านเป็นกรณีไป ทั้งนี้ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

บริษัทฯอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ดังนี้

4.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ลายมือชื่อ สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลบุคคลในครอบครัว (เช่น บิดา มารดา คู่สมรส และบุตร เป็นต้น) ข้อมูลสุขภาพ และข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น

4.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ไอดีสำหรับผู้ใช้แอปพลิเคชันไลน์(Line ID) ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน และข้อมูลบุคคลอ้างอิง เป็นต้น

4.3 ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา การฝึกอบรม เช่น ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม หนังสือรับรองคุณวุฒิ ใบแสดงผลการศึกษา ความสามารถ เป็นต้น

4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงาน เช่น ประวัติการทำงาน ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ตำแหน่งที่สมัคร และข้อมูลที่ปรากฏในแบบประเมินผล (เช่น ผลการประเมินความสามารถ ความรู้การทำงาน และศักยภาพอื่น) เป็นต้น

4.5 ข้อมูลอื่น ๆ เช่น บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) ของบริษัทฯ เป็นต้น

4.6 ข้อมูลการเข้าร่วมประชุมระหว่างบริษัทและบริษัทในเครือรวมถึงข้อมูลการเข้าร่วมการอบรมสัมมนา กิจกรรม หรือโครงการอื่นๆ ที่ บริษัทฯจัดขึ้น โดยอาจมีการบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และ/หรือเสียงระหว่างการประชุม อบรมสัมมนา หรือกิจกรรมดังกล่าว

4.7 ข้อมูลที่จำเป็นอื่น ๆ เพื่อการดำเนินคดีหรือการบังคับคดี เช่น สถานภาพการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน เป็นต้น

4.8 ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน ข้อมูลการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคระบาด

4.9 ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น

4.10 ประวัติการร่วมกิจกรรม หรือโครงการต่าง ๆ กับบริษัทฯ

5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทและบริษัทในเครืออาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆภายใต้ฐานทางกฎหมายที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการจะเก็บรวบรวมใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เท่าที่จำเป็นภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนี้.

5.1 ฐานในการประมวลผล

5.1.1 ฐานสัญญา เป็นการจำเป็นที่ท่านจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯเมื่อท่านได้ใช้บริการ หรือติดต่อเกี่ยวกับข้อเสนอการให้บริการหรือเข้าทำสัญญากับบริษัทฯเพื่อบริษัทฯจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลเกี่ยวกับการให้บริการ หรือการเข้าทำสัญญาหรือเพื่อให้ บริษัทฯได้ติดต่อสื่อสารหรือเพื่อติดตามและแจ้งผลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามสัญญาให้แก่ท่านทราบ

5.1.2 ฐานความยินยอม กรณีจำเป็นเมื่อท่านให้ความยินยอมกับบริษัทฯ บริษัทฯอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการออกแบบ หรือเพื่อการพัฒนาเกี่ยวกับสินค้า หรือบริการ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ หรือกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวกับสินค้า หรือเพื่อการให้บริการ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทและบริษัทในเครือ

5.1.3 ฐานประโยชน์อันชอบธรรม กรณีจำเป็นบริษัทฯอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการจัดการ และการจัดทำรายงานที่จำเป็นภายในบริษัทฯ การดูแลรักษาระบบเพื่อรักษามาตรฐานหรือการพัฒนาการบริการ การจัดการบริหารความเสี่ยงในบริษัทฯ การควบคุม และการตรวจสอบภายใน ซึ่งมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

5.1.4 ฐานจดหมายเหตุ วิจัย หรือสถิติ บริษัทฯอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำเอก สารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการศึกษา วิจัยการจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสม

5.1.5 ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต กรณีจำเป็นบริษัทฯอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อประโยชน์ในการระงับอันตรายเกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่านหรือบุคคลอื่น

5.1.6 ฐานภารกิจของรัฐ กรณีจำเป็นบริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบหมายให้แก่บริษัทฯ

5.1.7 ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย กรณีมีความจำเป็นบริษัทฯอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต

5.2 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

โดยทั่วไปแล้ว ไม่ว่าท่านจะเป็นลูกค้า คู่ค้า ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ หรือผู้ปฏิบัติงานในบริษัท และบริษัทในเครือ บริษัทฯอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ทั่วไป (ข้อ) วัตถุประสงค์ ฐานกฎหมาย
1. - เพื่อติดต่อสื่อสารให้ข้อมูลหรือคำแนะนำ
- เพื่อการติดต่อประสานงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
- เพื่อดำเนินการวางแผน การรายงาน และการคาดการณ์ทางธุรกิจ การบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ รวมถึงการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายในและการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงเพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานภายในบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินของฝ่ายบัญชีและการเงินบริษัทฯ
ฐานความยินยอม
ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
2. - เพื่อเป็นฐานข้อมูลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ของบริษัทฯ และใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารความสัมพันธ์หรือการติดต่อประสานงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯรวมถึงการสำรวจความคิดเห็น เพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัทฯ ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
3. - เพื่อการเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามเกณฑ์การประเมินต่าง ๆ ที่บริษัทฯ เข้าร่วม ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
4. - เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การดำเนินคดีต่างๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
5. - เมื่อท่านเข้าใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัทฯ เช่น All Digital Media (Website / Facebook / YouTube / Application,LINE ) และสื่อออนไลน์อื่นๆ บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) เพื่อวัดผลการปฏิบัติงาน และการวิเคราะห์การสำรวจตลาดและกลยุทธ์ทางการตลาดรวมทั้งเพื่อดำเนินการวางแผน การรายงาน และการคาดการณ์ทางธุรกิจ
(2) เพื่อสำรวจความคิดเห็น วิเคราะห์ วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการรวมถึงกิจกรรมของบริษัทฯ ให้เหมาะสมกับความต้องการของท่านและ เพื่อการพัฒนาการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ตรงกับความต้องการของท่าน
(3) เพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ รวมถึงเพื่อการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน และการบริหารจัดการภายใน องค์กร เช่น เพื่อตรวจสอบและป้องกันการทุจริต
(4) เพื่อการติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม การตรวจสอบข้อร้องเรียน การจัดการข้อร้องเรียน การจัดเก็บเป็นบันทึกผลการดำเนินการ การดำเนินการตาม กระบวนการภายในของบริษัทฯ
(5) เพื่อการคัดเลือกบุคคลเข้าร่วมกิจกรรม การตอบคำถามผ่านช่องทางออนไลน์ การประกาศผลกิจกรรม การแจกของรางวัลให้แก่ผู้เข้าร่วม กิจกรรมตามเงื่อนไขที่ บริษัทฯ กำหนด รวมทั้งการจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลประวัติผู้เข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัทฯ
(6) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวน สอบสวน ตามกระบวนการทางกฎหมาย และกฎระเบียบอื่นใดและเพื่อรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อ หน่วยงานราชการหรือองค์กรอื่นใดซึ่งอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรือคำสั่งศาลรวมทั้งเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ฐานสัญญา
ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย

ฐานสัญญา
ฐานประโยชน์อันชอบธรรม และฐานหน้าที่ตามกฎหมาย
6. - เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการเข้าทำสัญญาจ้างแรงงาน (ในส่วนพนักงานให้สิทธิประโยชน์ด้านสวัสดิการต่างๆ) สัญญาทางการเงิน,สัญญาในการดำเนินธุรกิจ, สัญญาในการจัดการทรัพย์สิน, สัญญาในการจัดการที่ดิน อาคาร สถานที่สิ่งปลูกสร้าง หรือก่อสร้าง,สัญญาในการบำรุงรักษาทรัพย์สินและเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานในการติดต่อประสานงาน ฐานสัญญา
ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
และฐานหน้าที่ตามกฎหมาย
7. - เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับการโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใดๆ เช่น การควบรวมกิจการ การแยก หรือการโอนกิจการ หรือซึ่งได้กระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
ลูกค้า (ข้อ) วัตถุประสงค์ ฐานกฎหมาย
1. - เพื่อการพิจารณาอนุมัติคำขอซื้อสินค้าใช้บริการรวมถึงกระบวน การตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบอำนาจการมอบอำนาจและ การรับมอบอำนาจ การพิจารณาความเสี่ยงในการเข้าทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการตามกระบวนการภายในต่าง ๆ ของ บริษัทฯ เพื่อการทำสัญญา การปฏิบัติงานตามสัญญา การส่งมอบสินค้า การให้บริการ รวมไปถึงการติดต่อประสานงาน การเรียกเก็บเงินค่าสินค้า ค่าใช้จ่าย การจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นต้น
- เพื่อประโยชน์ในการประเมินปรับปรุงและพัฒนาสินค้าการให้ บริการ และรายการส่งเสริมการขายต่างๆ ของบริษัทฯ รวมถึงเพื่อสำรวจความพึงพอใจเกี่ยวกับสินค้า และบริการของบริษัทฯเพื่อให้เหมาะสม และตรงตามความต้องการของลูกค้า
ฐานสัญญา และ
ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
2. - เพื่อใช้เป็นข้อมูลและเอกสารประกอบการดำเนินงานใดๆ ของบริษัทฯกับธนาคาร สถาบันการเงิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ และหน่วยงานภายนอกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
คู่ค้า (ข้อ) วัตถุประสงค์ ฐานกฎหมาย
1. - เพื่อการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ก่อนเข้าธุรกรรม เช่น
• การขึ้นทะเบียนคู่ค้า
• การพิจารณาคุณสมบัติของคู่ค้า
• การจัดเตรียมข้อมูลก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น การสืบและจัดทำราคากลาง, การระบุชื่อและ รายละเอียดของคู่ค้าในระบบภายในของบริษัทฯ เป็นต้น
• การซื้อหรือรับเงื่อนไข ข้อกำหนด(ประมูล) การเข้ารับฟังการชี้แจง การนำเสนอผลงานที่เกี่ยวข้องกับงานจัดซื้อจัดจ้าง (แล้วแต่กรณี) ต่อรองราคา การประกาศผลผู้ชนะ
• การเชิญเสนอราคา การเสนอราคา การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจในการยื่นเอกสารเสนอราคาของผู้เสนอราคา และการพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคากับ บริษัทฯ ตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัท รวมถึงกรณีที่ผู้เสนอเป็นผู้ให้บริการ ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาบัญชี ที่ปรึกษาธุรกิจ และที่ปรึกษาภาษีผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน สถาบันการเงิน ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบบัญชีและการเงิน
• การจัดทำ ข้อตกลงการรักษาความลับ
ฐานสัญญา และ
ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
2. - เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมระหว่างคู่ค้าเช่น
• การตรวจสอบยืนยันตัวตน (อำนาจ หรือการมอบอำนาจหรือการรับมอบอำนาจ) รวมทั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
• การปฏิบัติการตามกฎ ระเบียบ และขั้นตอนการจัดการภายในต่าง ๆ ของบริษัทฯ
• การพิจารณา จัดทำ และลงนามในสัญญาทางการค้า
• การปฏิบัติตามสัญญาว่าจ้าง สัญญาบริการ สัญญาทางการค้าอื่น ๆ และความตกลงหรือความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง ระหว่างบริษัทฯ และคู่สัญญา รวมถึงกระบวนการขอและพิจารณาเอกสารที่เกี่ยวข้องอันอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการบริษัทซึ่งเป็นบุคคลภายนอก หรือผู้แทนจาก หน่วยงานรัฐ
• การตรวจรับงานตามสัญญาระหว่าง บริษัทฯ และคู่ค้า การบริหารพัสดุ และสินค้าเชิงพาณิชย์ การออกหนังสือรับรองผลงาน จนแล้วเสร็จ
ฐานสัญญา และฐานประโยชน์อันชอบธรรม
3. - เพื่อการพิจารณา การจัดทำ การลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึงการบริหารสัญญาหรือข้อตกลงดังกล่าว ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
อื่นๆ (ข้อ) วัตถุประสงค์ ฐานกฎหมาย
1. กล้องวงจรปิด
- เพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ และความปลอดภัย ของท่าน และผู้ที่มาติดต่อกับบริษัทฯ รวมถึงทรัพย์สินของท่านและของบริษัทฯ
ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต และ ฐานประโยชน์อันชอบธรรม

5.3 เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบ

บริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์อื่นใดอันเป็นเหตุให้บริษัทฯต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไป จากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น หรือเมื่อบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 การเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯอาจเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้กับบุคคลภายนอกตามความยินยอมของท่าน และจะใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฉบับนี้ เช่น บริษัทและบริษัทในเครือเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ บริษัทหรือที่ปรึกษาด้านการตลาด ที่ปรึกษาทางธุรกิจหรือทางวิชาชีพ ธนาคารคู่สัญญา สถาบันการเงินกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมบังคับคดี ประกันสังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานอัยการหรือศาล และหน่วยงานภายนอกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานที่ปฏิบัติงานตามตำแหน่งหน้าที่ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้านการค้า(การขาย และบริการ) ด้านการวิจัยพัฒนา ด้านการสื่อสาร ด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านการลงทุน ด้านการเงิน ด้านการศึกษา หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรใดที่มี อำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดโดยกฎหมาย เป็นต้น

6.2 การเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่บริษัทและบริษัทในเครือเปิดเผย ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯจะดำเนินการส่งหรือโอนไปยังประเทศปลายทางองค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ และบริษัทฯอาจขอความยินยอมจากท่านสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศตามที่กฎหมายกำหนด

บุคคลภายนอกที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทฯ จะต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ได้แจ้งไว้กับบริษัทฯ เท่านั้น

7. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

บริษัทฯมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมการใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุ ประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทฯเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งบริษัทฯเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้

8. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวล ผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนด ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสาร หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯสิ้นสุดลงอย่างไรก็ดี บริษัทฯอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหาก กฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัทฯ

หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัทฯ และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ(ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด

ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯตามรายละเอียดการติดต่อที่กำหนดในข้อ 12. หรือผ่านเว็บไซต์ของบริษัท

9. การรักษาความปลอดภัย

บริษัทฯมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัทฯและการใช้บังคับนโยบายอย่างเข้มงวดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัยซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล และมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูล โดยบริษัทฯ กำหนดให้บุคลากรของบริษัทฯ และผู้รับจ้างภายนอกจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน และนโยบายความเป็นส่วนบุคคลที่เหมาะสม รวมถึงจะต้องจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูล และมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านตามที่กฎหมายกำหนด

10. สิทธิต่างๆของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิต่างๆที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯตามรายละเอียดการติดต่อตามที่กำหนดในข้อ 12. หรือผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯตามประกาศฯ ฉบับนี้

10.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

10.2 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพ ไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

10.3 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

10.4 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

10.5 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

10.6 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

10.7 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับ บริษัทฯ ได้ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

10.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หาก บริษัทฯฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้

การร้องขอใดๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านจะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งบริษัทได้จัดให้มีขึ้นในเว็บไซต์ของบริษัท หรือกรอกข้อมูลผ่านแบบฟอร์มคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือในกรณี ท่านประสงค์ใช้สิทธิถอนความยินยอมสามารถกรอกข้อมูลผ่านแบบฟอร์มคำขอถอนความยินยอม ทั้งนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลา 30 วัน นับแต่ได้รับคำร้อง อย่างไรก็ดี บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่าน ในกรณีที่มีข้อยกเว้นตามกฎหมายหรือบริษัทจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาได้ หรือมีผลกระทบกับการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือเป็นการปฏิเสธตามคำสั่งศาล หรือหากบริษัทดำเนินการ ตามคำขอของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยบริษัทจะดำเนินการบันทึกการปฏิเสธคำร้องขอพร้อมด้วยเหตุผลไว้ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดได้ ทั้งนี้ หากปรากฏอย่างชัดเจนว่าคำร้องขอของท่านเป็นคำร้องขอที่ไม่สมเหตุสมผล หรือคำร้องขอฟุ่มเฟือยบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการตามมาตรการของบริษัทต่อไป

11. การใช้คุกกี้

การใช้เทคโนโลยีการติดตาม (คุกกี้) เป็นมาตรฐานทั่วไปบนอินเตอร์เน็ต และเบราว์เซอร์สำหรับท่องอินเตอร์เน็ตทั่วไปจะตั้งค่ายอมรับการใช้งานคุกกี้อัตโนมัติ อย่างไรก็ตามการตัดสินใจว่าท่านจะใช้คุกกี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับท่าน ท่านสามารถ เลือกที่จะยอมรับ หรือไม่ยอมรับการใช้งานคุกกี้ได้ หรือจะตั้งค่าเบราว์เซอร์เพื่อไม่ยอมรับการใช้งานคุกกี้ หรือตั้งให้เตือนเวลาที่เว็บไซต์ส่งคุกกี้มาให้ท่าน

ในกรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์บริษัทต่อท่านได้ทำการยอมรับการใช้เทคโนโลยีการติดตาม (คุกกี้) ของบริษัทตามนโยบาย การใช้เทคโนโลยีการติดตาม (คุกกี้) ฉบับนี้ หากท่านไม่ต้องการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์เรา ท่านสามารถตั้งค่าไม่รับคุกกี้บน เบราว์เซอร์ หรือไม่ใช้งานเว็บไซต์ได้ อย่างไรก็ตามหากปิดการใช้งานคุกกี้ ฟังก์ชั่น คุณสมบัติบางอย่างของเว็บไซต์อาจทำงานได้ไม่สมบูรณ์

12. วิธีการติดต่อบริษัทฯ

หากท่านมีข้อสงสัยใดๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในประกาศฯหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกาศนี้ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทางดังนี้. บริษัท ฟู้ดส์ คลาสสิค จำกัด สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 3388/22 อาคารสิรินรัตน์ ชั้น7 ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer) อีเมล.hroffice@foodsclassic.co.th หรือตามที่อยู่ของบริษัทฯ ข้างต้น

13. การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยน แปลงใดๆ เมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น บริษัทฯจะประกาศฉบับปรับปรุงให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

ประกาศ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
บริษัท ฟู้ดส์ คลาสสิค จำกัด


(นางสาว เคโกะ ยามาดะ)
ประธานกรรมการบริษัท

Cookie Policy